มารู้จัก Kate Bishop

ตอนนี้คงเห็นรูปของ Hailee Steinfeld ในบท Kate Bishop กันแล้ว แต่หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นกับตัวละครตัวนี้เลยขอเล่าประวัติจากคอมิคแบบคร่าวๆ

– Kate Bishop ไม่ใช่ลูกสาวของ Clint Barton ในคอมิค Clint ไม่มีลูกและครอบครัว คาดว่าในซีรี่ส์ Hawkeye นี้ Clint ต้องมาที่นิวยอร์คเพื่อภาระกิจอะไรสักอย่าง และนั่นได้พาเขาไปเจอและช่วย Kate Bishop จากการตามล่า

-มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่เธอมีอดีตที่น่าเศร้าแม้ครอบครัวจะร่ำรวย พ่อของเธอเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ใหญ่(แต่มีชีวิตลับ) แม่ของเธอเสียชีวิตในช่วงที่เธอยังเด็ก-เคยโดนทำร้ายในตอนเด็กKate ถูกทำร้ายขณะกลับบ้านจากโรงเรียนผ่านสวนเซ็นทรัลพาร์ค แม้ข้อมูลจะยังไม่ชัดเจนว่ารุนแรงขนาดไหน มันเป็นแรงผลักดันให้เธอฝึกวิชาการต่อสู้ต่างๆรวมทั้งการใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง

– Kate เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของทีม Young Avengersดำเนินเรื่องหลังจาก Avengers Disassembled ที่ทีมแตกและฮีฌร่หลายๆคนเสียชีวิต วัยรุ่นกลุ่มนึงได้รวมทีมกันเพื่อมาทำหน้าที่แทน Avengers ในนิวยอร์คทีมนี้มี Iron lad, Patriot, Wiccan, Hulking, Stature และ Kate เป็นสมาชิกคนเดียวที่ไม่มีพลัง แต่เธอใช้เงินช่วยสนับสนุนทีมในช่วงแรกๆ

-Kate ใช้ชื่อ Hawkeye คู่กับ Clintหลังจากที่ Clint คืนชีพ เขาได้มาพบกับเธอ(ในชุด Ronin) และหลังจากที่เขาเชื่อใจเธอ เขาได้มอบธนูของเขาและให้เธอใช้ชื่อ Hawkeye ได้อย่างเต็มที่ (แม้เขาจะกลับมาใช้ชื่อนั้นในภายหลัง)

– คอมิคหัวร่วมกับ Clint Barton Hawkeye (2015)Kate ช่วย Clint ในการต่อสู้กับอาชญากรรมระดับล่างในคอมิคชุดนี้(ที่น่าจะเป็นต้นแบบของซีรี่ส์) รวมทั้งการปกป้องตึกที่ Clint อาศัยอยู่จากการรุนราญของมาเฟียที่ต้องการไล่ผู้อาศัยออกเพื่อจะทุบตึกและขายที่

สิทธิ์ของตัวละคร Marvel netflix

สัญญาระหว่าง Netflix และ Marvel ระบุไว้ว่าจะสามารถเริ่มวางแผนใช้ตัวละครได้อีกครั้ง 2 ปีหลังจากวันที่ประกาศ cancel ซีรี่ส์ หรือวันฉายวันสุดท้าย

Daredevil ฉายซีรี่ส์สุดท้าย October 19, 2018 ประกาศแคนเซิล November 2018

Iron Fist ฉายซีรี่ส์สุดท้าย September 7, 2018 ประกาศแคนเซิล October 2018

Luke Cage ฉายซีรี่ส์สุดท้าย June 22, 2018 ประกาศแคนเซิล October 2018

Jessica Jones ฉายซีรี่ส์สุดท้าย June 14, 2019 ประกาศแคนเซิล February 18, 2019

Pinsiher ฉายซีรี่ส์สุดท้าย January 18, 2019 ประกาศแคนเซิล February 18, 2019

After The Snap?

*อันนี้จะดูเรื่อยเปื่อยๆหน่อยนะเพราะเป็นการคิดเล่นๆและคงไม่มีคำตอบ

 

หลังจากดู Avengers: Endgame จบก็เคยคิดเหมือนกันว่าทั้งการที่คนหาย50%จาก SNAP และการที่กลับมานั้นจะส่งผลอย่างไร ลองมาคิดเล่นๆกัน (ในสงครามโลกครั้งที่2นั้น มีคนตายไปถึง3%ของทั้งโลก หรือที่กาฬโรคระบาดในยุคกลางก็ทำให้คนตายไปประมาณ25% โลกเรายังไม่เคยเจออะไรที่รุนแรงจนถึง50%มาก่อน)

 

เอาจากช่วง5ปีที่ถูก SNAP แล้วหายไปครึ่งนึงก่อน

คาดว่าคนที่หายไปจะถูกแจ้งว่าตายตามกฏหมาย ซึ่งนั่นจะมีผลตามมา

(อันนี้ลองไปดู The Leftovers ของ HBO จะได้ฟีลนี้นิดๆแต่นั่นหายไปแค่2% )

 

– หน้าที่การงาน จะต้องมีคนมาทดแทน

– บ้านและทรัพย์สินต่างๆอาจจะถูกตีความว่าร้างและถูกขายต่อไปโดยญาติๆหรือครอบครัว

– คนรัก คู่แต่งงานจะเชื่อว่าคนที่หายไป ไม่มีทางกลับมาแล้ว และจะมีคู่ชีวิตใหม่

– และการที่คนระดับผู้นำประเทศอย่าง T’Challa ที่หายไปจะมีผลกระทบอย่างไร

-ผลกระทบทางจิตใจของผู้รอด

– อาจจะมีการแอบฆ่าเก็บคนแล้วอ้างว่าหายไปในการถูก SNAP

 

หลังจาก5ปีผ่านไปสังคมก็คงจะเริ่มลงตัวขึ้น หน้าที่การงานที่สำคัญๆก็จะมีคนมารับหน้าที่แทนแล้ว อยู่ๆคนที่หายไปก็กลับมา ( Manifest ทีวีซีรี่ส์จากปีที่แล้วก็เกี่ยวกับคนบนเครื่องบินที่หายไป5ปีครึ่ง แต่นั่นก็เป็นแค่หลักร้อย)

 

ผลกระทบจากการกลับมาน่าจะมีมากกว่า

-คนที่พึ่งกลับหากถูกตัดสินว่าตายไปแล้วทางกฏหมาย ทรัพสินถูกส่งต่อให้ทายาทไปหมดแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น เขาจะได้บ้าน เงิน หรืออื่นๆกลับมาไหม

 

-ตำแหน่งงานต่างๆที่หายไปจะ

 

-Technology ต่างๆอาจจะก้าวหน้าไป(แต่ไม่น่าเร็วมาก)

 

-ยังไม่รวมผลกระทบทางจิตใจของทั้งคนที่กลับมา(ซึ่งเวลาผ่านไปไม่กี่อึดใจ) กับคนที่รอดSNAP มาเวลาผ่านไป5ปีแล้ว ทั้งอดีตคนรักที่อาจจะไปมีคู่ใหม่ เพื่อนรักที่อายุห่างกันไป5ปี

 

– อาจจะมีคนที่ฉวยโอกาสในการกลับมา แอบอ้างเข้ายึดทรัพย์สิน หรือใช้ความสงสารในการเป็นผู้กลับมาหาประโยชน์เข้าตัว (เคยเกิดขึ้นใน 9/11)

 

น่าคิดมาก และอาจจะได้เห็นบางส่วนใน Far From Home แต่คงจะไม่ได้คำตอบทุกอย่าง และน่าสนใจว่าMarvel จะกลับมาเล่าเรื่องผลกระทบเหล่านี้ในหนังเรื่องต่อๆไปไหม

 

Screenjunkies ได้คุยเรื่องนี้ไปนิดหน่อย

https://youtu.be/n58qukrgdXQ

Marvel studios release date 2020-2022

Disney ประกาศตารางหนังใหม่ ในนั้นมีหนัง Marvel Studios Phase 4 ทั้งหมด 8 เรื่องจนปี 2022

 

ทางเราคาดว่าจะเป็นเรื่องเหล่านี้

 

2020 Films (อาจจะสลับกันได้)

 

1/5 UNTITLED MARVEL

น่าจะเป็น Black Widow

6/11 UNTITLED MARVEL

น่าจะเป็น Eternals

 

2021 Films

12/2 UNTITLED MARVEL

น่าจะเป็น Shang chi เพราะตรงกับตรุษจีน

7/5 UNTITLED MARVEL

5/11 UNTITLED MARVEL

 

2022 Films

 

18/2 UNTITLED MARVEL

6/5 UNTITLED MARVEL

29/7 UNTITLED MARVEL

Steve กลับไปใช้ชีวิตในไทมไลน์ไหน??

Steve Rogers ย้อนเวลากลับไปอยู่กับ Peggy ในไทมไลน์ไหน???? อันนี้ผู้เขียนบทและผู้กำกับยังคิดไม่เหมือนกันเลย

กดฟังเพลงไปด้วยจะได้อิน

 

คำถามที่ถูกถามบ่อยสุดของ Endgame

1. เพลงเปิด Marvel Studios Logo ชื่ออะไร

   เราได้รวมเพลงที่ประกอบท้เงรื่องไว้แล้วที่ https://marvelthailandfan.wordpress.com/2019/05/03/endgamesongs/

   

2. Captain Marvel เจอโทนี่ได้ไง และฉากนี้เกิดก่อนหรือพลังฉากระหว่าง Credit ใน Captain Marvel?

   Carol ได้ตามสัญญานเรียกของเพจเจอร์มาจนเจอเหล่า Avengers และได้ทราบเรื่องของโทนี่จึงออกตามหาเขา

    

   

3. Ancient One ยอมให้ Bruce เอา time stones ไปหลังเขาสัญญาว่าจะนำมาคืน แล้วในไทมไลน์หลักที่ Thanos ทำลาย Stones ไปแล้วล่ะ??

   ในไทมไลน์หลักนั้น Infinity Stones ไม่ได้หายไป แต่”ถูกทำลายจนเป็นอะตอม” หินทั้งหมดยังอยู่ในไทมไลน์ของเรา

   

4. การเดินทางข้ามเวลาในเรื่องนี้ทำงานอย่างไร?? ทำไมทำอะไรในอดีตไม่กระทบปัจจุบัน

   แนวคิดของการเดินทางข้ามเวลาในเรื่องนี้คือ “ทำอะไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดไปแล้วได้” ทำให้ไม่มีการเกิด Butterfly effect ที่สิ่งที่ทำในการย้อนเวลาจะกระทบกับปัจจุบัน เช่นการที่ Nebula ฆ่าตัวเองในอดีต หรือการที่ Loki ขโมย Tesseract ไปได้

   ไทมไลน์หลักยังคงเดิม แต่ไทมไลน์ที่ย้อนไปจะแตกกิ่งไปอีกที่จะเกิดเหตที่ต่างไปจากที่เราเคยเห็นในหนังเรื่องก่อนๆ แต่ไม่กระทบกับเวลาของเรา
   ที่สตีฟนำStones ต่างไปคืนอาจจะไม่ใช่ที่เดิม แต่ต้องเป็นเวลาเดิมเพื่อไม่ให้มิติอื่นๆขาดInfinity Stones ไป

   

5. Loki ได้ Tesseract ไปแล้วในไทมไลน์นั้นจะเกิดอะไรขึ้น??

   นี่คือตัวอย่างของไทมไลน์ที่แยกไป Loki ในไทมไลน์นี้อาจจะใช้ Tesseract กลับไปหา Thanos และอาจจะเกิดอะไรต่อจากนั้นก็ได้

   

6. ทำไม Tony ถึงเลือกค่ายทหารและวันนั้นที่จะย้อนเวลากลับไป (07-April-1970)

   ค่ายทหารที่ทั้งสองย้อนกลับไปคือค่ายที่เราเห็นใน The First Avenger และ Tony เลือกเวลาช่วงที่ใกล้วันเกิดของเขา (25-5-1970) เพื่อหาช่วงโอกาสที่ทั้งพ่อเขาและ Pym จะทำงานให้ SHIELD อยู่ที่ค่ายนี้ (Howard เป็นคนพบ Tesseract หลังกัปตันถูกแช่แข็ง)

   

7.  Jarvis ที่เราเจอคือคนเดียวกับ The Vision และ AI?

   เราได้เห็น Edwin Jarvis ในแบบคน รับบทโดย James D’Arcy จากซีรี่ส์ Agent carter เป็นนักแสดงที่เริ่มจาก Marvel TV และข้ามมา Marvel Movie

   ในเรื่อง Jarvis จะสนิทกับ Tony ทำให้เขานำชื่อมาสร้าง AI ตอนโต

   

8. ทำไม Thanos มี Pym Particle หลอดเดียวถึงมาทั้งกองทัพได้

   อย่าลืมว่า Thanos ที่มาจากอดีตนั้นมีเวลานานที่จะทั้งค้นคว้าและสร้าง Pym Particle เพิ่ม หรืออาจจะไปเอามาจาก Pym มนไทมไลน์อื่นก็ได้

   

9. ทำไม Cap ถึงยก Mjolnir ได้

   อย่างที่เราเห็นใน Age of Ultron ว่า Cap เป็นคนเดียวที่ทำให้ค้อนขยับได้ แต่ที่เขายังยกไม่ได้นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเขาเคยมีความรู้สึกผิดที่ปิดบังความจริงที่รู้ว่า Bucky เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของ Tony

   

10. Tony แย่ง Gems มาได้ไง และทำไมไม่ใช้ Time Stone รักษาตัวเอง

    Tony ได้ใช้ Nano tech สร้างทั้ง Gauntletใหม่และเกราะของเขาเองทำให้เขาสามารถ สั่งให้มันย้าย Stones ทั้งหมดมาอยู่ในมือของเขาเองได้

    ที่ไม่มีใครใช้ Time STone รักษา Tony อาจจะเป็นเพราะพวกเขากลัวมันจะย้อนการ Snap ครั้งสุดท้าย

    

11. Gamora จากอดีตโดน Snap ไปด้วยไหม

    เราคาดว่าการ Snap ครั้งสุดท้ายนั้น Tony จงใจให้ พวกกองทัพของ Thanos ทั้งหมดหายไป และตอนนั้น gamora จากอดีตได้หักหลังพ่อเธอเรียบร้อยแล้วจึงไม่โดนsnapไปด้วย และในตอนจบ Quill ยังพยายามตามหาเธออยู่

    

12. I love you 3000 หมายความว่าไง?

    รักนะ3000 เป็นคำตอบกลับจากที่ Tony พูดว่า Love you tons (1000โล) Morgan เลยตอบทับว่ารักมากกว่าตั้ง3000เลย

    ไอเดียนี้มาจากลูกของ Robert Downey เองที่ชอบพูดกับเขา

    

13. เด็กหนุ่มในงานศพของ Tony Stark คือใคร

    ชายหนุ่มคนนั้นคือ Harley Keener ที่รับบทโดย Ty Simpkins จาก Iron Man 3

    

14. Cap หายไปไหน และกลับมาได้อย่างไร

    Cap ได้ย้อนกลับไปนำ Stones สู่ไทมไลน์ที่เอามา (แต่อาจจะไม่ได้เอาไปไว้ที่เดิม) และเขาตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่กับ peggy ในไทมไลน์หนึ่ง ก่อนที่จะย้อนกลับมานั่งรอ Sam และ bucky ที่ริมทะเลสาบ

    แต่อันนี้ผู้กำกับและผู้เขียนบทยังให้ข้อมูลที่แตกต่างกัน โดยผู้เขียนบทบอกว่าเป็นไทมไลน์หลัก

    

15. ทำไมถึงเลือก Sam เป้นคนรับโล่ต่อไป

    Sam เป็นตัวแทนของยุคปัจจุบันและเขาเหมาะที่ทำหน้าที่มากกว่า Bucky ผู้ที่มาจากอดีตและยังเข้าใจยุคปัจจุบันไม่ดีนัก

    *หลายๆคนสังเกตว่าโล่ที่มอบให้ Sam ไม่เหมือนโล่ที่เขาใช้ตามปรกติ อาจจะไปขอให้ใครซ่อมให้ในอดีต

    

16. จะเกิดอะไรขึ้นในหนังเรื่องต่อๆไปอย่าง Spider-man: Far From Home

    Joe Russo ยืนยันว่า Ned ถูก Snap ไปพร้อมๆกับ Peter และพวกเขาหายตัวไป5ปีด้วยกัน นั่นหมายความว่า Far from home นั้นเกิดขึ่นในปี 2023? และหนังเรื่องต่อๆไปของ MCU ก็จะดำเนินเรื่องตามนั้นด้วย?? มารอดูกันต่อไป

    

17.  ที่หมอแปลกชู 1 นิ้วให้โทนี่คืออะไรเป้นการส่งสัญญานบอกว่านี่ละคือ 1 ใน 14,000,605 และถึงเวลาแล้ว
18.  ถ้าให้แคปมาร์เวลดีดนิ้วแทนโทนี่ได้มั้ยเรายังไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว Captain Marvel ขะสามารถทนได้ไหม แต่ตอนนั้น Tony เป็นคนที่อยู่ใกล้สุดและสามารถเข้าไปได้เร็วที่สุด
19.  เอานาตาชาจากอดีตมาโลกปัจจุบันได้มั้ยผู้กำกับได้บอกว่าเมื่อสละวิญญานไปเพื่อนำ Soul stone ออกมาแล้ว จะไม่สามารถนำคนที่เสียสละคืนมาได้

รวมเพลงประกอบจาก Avengers: Endgame

ก่อนจะเลื่อนลงไปดู **เตือนสปอยล์ระดับ 4 Tom Hollands** เพราะเราจะบอกว่าเพลงนี้มาจากฉากไหนด้วย

1. Dear Mr. Fantasy – Traffic – 1967
   มาพร้อมกับ Marvel Studios Opening
   
2. Supersonic Rocketship – The Kinks – 1972
   ฉาก Ant-man พยายามกินทาโก้ที่ฐาน Avengers
   
3. Doom and Gloom – The Rolling Stones – 2013
   ฉาก Rocket ซ่อมยาน
   
4. Come and Get Your Love – Redbone – 1973
   ฉากบนดาว Morag ตอน Peter Quill กำลังเต้น และ Nebula กับ Rhodey แอบมองเขาอยู่
   
5. Hey Lawdy Mama – Steppenwolf – 1970
   ฉากที่ Tony กับ Steve ย้อนไปยุค1970 และ Stan Lee Cameo
   
6. It’s Been a Long, Long Time – Harry James And His Orchestra – 1945
   ฉาก Steve และ Peggy เต้นรำกันในอดีต
   

   Avengers: Endgame (Original Motion Picture Soundtrack)
   Alan Silvestri

1. Totally Fine (4:29)
2. Arrival (1:49)
3. No Trust (3:09)
4. Where Are They? (3:12)
5. Becoming Whole Again (3:48)
6. I Figured It Out (4:30)
7. Perfectly Not Confusing (4:46)
8. You Shouldn’t Be Here (3:33)
9. The How Works (3:50)
10. Snap Out of It (2:24)
11. So Many Stairs (1:51)
12. One Shot (2:04)
13. Watch Each Other’s Six (3:56)
14. I Can’t Risk This (4:48)
15. He Gave It Away (3:42)
16. The Tool of a Thief (2:58)
17. The Measure of a Hero (3:05)
18. Destiny Fulfilled (4:05)
19. In Plain Sight (3:14)
20. How Do I Look? (2:06)
21. Whatever It Takes (2:56)
22. Not Good (1:53)
23. Gotta Get Out (2:38)
24. I Was Made for This (4:37)
25. Tres Amigos (3:37)
26. Tunnel Scape (3:16)
27. Worth It (4:15)
28. Portals (3:17)
29. Get This Thing Started (4:54)
30. The One (2:08)
31. You Did Good (1:57)
32. The Real Hero (5:54)
33. Five Seconds (1:45)
34. Go Ahead (2:57)
35. Main on End (3:11)

Songs Playlist

หนังที่ต้องดูก่อนจะดู Endgame

 

มีหลายๆคนถามมาว่าจะต้องดูเรื่องอะไรถึงจะเข้าใจ Endgame ได้ แม้เราจะไม่ลงเนื้อหาจากหนังโดยตรงแต่แน่นอนว่าอาจจะทำให้เดาได้ว่าในหนังจะเกิดอะไรขึ้น จะพยายามเขียนให้ไม่สปอยล์ที่สุด

เราได้ทำรูปและเขียนย่อขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจง่ายกัน

Phase One

1.1. Iron Man (2008) –  เปิดจักรวาล MCU
1.5 Captain America: The First Avenger (2011) – เปิดตัวกัปตันและ Space Stone
1.6 Marvel’s The Avengers (2012) – Mindstone และเปิดตัวทีม+ Thanos

Phase Two

2.2 Thor: The Dark World (2013) – Reality Stone
2.3 Captain America: The Winter Soldier (2014) – เปิดเผย HYDRA ใน SHIELD
2.4 Guardians of the Galaxy (2014) – Power Stone
2.5 Avengers: Age of Ultron (2015) – แผนของ Tony และจุดเริ่มแตกแยกของทีม

Phase Three

3.1 Captain America: Civil War (2016) – จุดแตกแยกของทีม
3.2 Doctor Strange (2016) – Time Stone
3.5 Thor: Ragnarok (2017) – เล่าเรื่องของชาวแอสการ์ดที่เสียบ้านเกิด
3.7 Avengers: Infinity War (2018) – Soul Stone, Thanos บุกโลก
3.8 Ant-Man and the Wasp (2018) – Quantum Realms

 

*ข้างล่างจะเป็น Bonus easter Eggs ที่จะกระทบเนื้อเรื่องนิดหน่อย แต่จะช่วยให้อินกับหนังได้มากขึ้น เราจะไม่บอกว่าฉากอะไร แต่จะลงรูปคนที่มา Cameo ในหนัง และอาจจะไม่รู้จักกัน ระวังก่อนอ่าน*

รีวิว Antman and The Wasp Nano Battle

เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาทาง Hongkong Disneyland ได้เชิญทางเพจให้ไปลองเล่นเครื่องเล่น Ant-man and The Wasp: Nano Battle ก่อนจะเปิดจริง!!! โดยหนนี้ได้รับบริการอย่างดีจาก Hong Kong Airline และได้พักที่โรงแรมของ Disney ที่ Disney Explorer Lodge!!

Ant-man and The Wasp: Nano Battle เป็นเครื่องเล่นที่ดำเนินเรื่องต่อจาก Iron Man Experience โดยตอนนี้หน่วย S.H.I.E.L.D ได้มาเปิดศาลา Science Pavillion ที่ฮ่องกงโดยอยู่ข้างๆตึก Stark Expo เลย

แต่ Arnim Zola และ Hydra ได้ใช้โอกาสนี้พยายามแฮ็คเข้าไปเพื่อดูดข้อมูลลับโดยใช้ Nano Bots โชคดีที่ Ant-man และ The Wasp อยู่ที่นี่ด้วย แต่พวกเขาไม่สามารถชนะได้ ถ้าไม่ได้ความร่วมมือจากอาสาสมัครอย่างพวกเรา

 

ระหว่างรอคิวเราจะเดินผ่านที่ทำงานของพนักงานหน่วย SHIELD และระหว่างทางเดินนั้นจะมีข้อมูลของเครื่องเล่น ของและ Easter Eggs ต่างๆจาก MCU ประดับเต็มไปหมด และในวีดีโอเราจะได้รับการขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ Leslie Lam ผู้ที่ประสานงานให้เราช่วย Ant-man และ The Wasp ในภารกิจครั้งนี้

 

ที่สุดยอดเลยคือวีดีโอต่างที่ใช้นั้นได้นักแสดงตัวจริงอย่าง Paul Rudd และ Evangeline Lilly มารับบทเดียวกับที่พวกเขาเล่นในหนัง ทำให้ผู้เล่นรู้สึกอินกับเรื่องราวจริงๆ ฉากของพวกเขากำกับโดย Peyton Reed ผู้กำกับหนัง Ant-man เอง และเพลงประกอบตลอดride ก็มาจาก Christophe Beck ผู้แต่งเพลงประกอบภาคแรกด้วย

เครื่องเล่น Ant-man and The Wasp: Nano Battle เป็นเครื่องเล่น Interactive ที่มีการใช้ปืนEMP Blaster Daggr  ที่ใช้ระบบเลเซอร์ในการยิงเป้าต่างๆ ในขณะที่ผู้เล่นนั่งอยู่ในรถที่วิ่งไปเอง ซึ่งระหว่างทางนั้นผู้เล่นจะถูกย่อส่วนไปขนาดจิ๋วเพื่อต่อสู้กับ Nano Bots ในระบบ อันนี้ดูเหมือนจะปรับปรุงขึ้นจาก  Buzz Lightyear Astro Blasters. ทำให้เห็นและเล็งเป้าได้ง่าย

ตัวเครื่องเล่นเองจะไม่มีอะไรให้หวาดเสียวกรี้ดกร้าดเหมือนกับ Iron Man Experience ที่จะพาเราไปบินไปทั่วเกาะฮ่องกง แต่จุดเด่นของเครื่องเล่นนี้คือรายละเอียด ทั้งพร้อพประกอบฉากต่างๆ ในขณะที่เล่นเราจะไม่รู้เลยว่าเป้าจะปรากฏตรงไหน และ Ant-man กับ The Wasp จะโผล่มาด้านไหนของเครื่องเล่น ทำให้ต้องเล่นซ้ำหนที่สองหนที่สามถึงจะเก็บรายละเอียดได้หมด (ตอนไปเล่นไปสามรอบ 555)

 

แน่นอนว่าสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยตอนที่เล่นเสร็จแล้วคือส่วน Giftshop ของ Pavillion ที่มีของที่ระลึกทั้งเสื้อผ้าเครื่องใช้เข็มกลัดของเล่น ทั้งลายของหน่วย SHIELD ของ Ant-man and The Wasp แม้แต่ Arnim Zola เองก็ยังมี  พวกนี้จะมีขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น!!!

นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้าและของเล่นของ Marvel ทั้งลายทั่วไปและลายจากหนังอีก (ตอนไปมีของ Endgame มาวางแล้ว เร็วกว่าที่อื่นมากเลย!!!)

จะบอกเลยว่าถ้าเป็นแฟน Marvel และจะแวะไปฮ่องกงแล้วห้ามพลาด Hong Kong Disneyland เลยเพราะที่นี่คือ Marvel hub ของ Asia และจากงานเปิดที่มี Kevin Feige มาด้วย แสดงว่า คงมีแผนสร้างอะไรจากจักรวาล MCU ให้ที่นี่เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน!!!

 

ติดตามข้อมูลและโปรโมชั่นต่างจาก Hong Kong Disneyland ได้ที่

https://www.hongkongdisneyland.com/

 

#HKDisneyland
#AntManAndTheWaspNanoBattle
#Goallin

 

Captain Marvels ชื่อนี้มีประเด็น

หลายๆคนคงงงๆเรื่องชื่อของ Captain Marvel ที่เราอาจจะเห็นหลายๆคนใช้คำว่า Original Captain Marvel กับ Shazam อยู่ ทางเพจเราจะรวม timeline ง่ายๆมาให้อ่านกัน

1930

ในปี 1938 National Allied Publications (ภายหลังเป็น DC comics) ตีพิมพ์ Action Comics #1 ที่มี Superman และเริ่มยุคทอง(Golden age of comics) ของ Superhero comics ที่หลายๆหัวจะมียอดขายหลายแสนเล่ม
กลางปี 1939 Timely Comics พิมพ์ Marvel Comics #1 (ปก 11/1939)
ปลายปี 1939 Whiz Comics #2 เปิดตัว Captain Marvel (ปก 1/1940)

1940’s

1941 National ฟ้อง Fawcett ว่า Captain Marvel เป็นตัวละครที่ลอก Superman มาโดยใช้หลักฐานปกที่ขว้างรถเหมือนกัน ศาลตัดสินให้ Fawcett ไม่ผิด เพราะNational ไม่ได้ยื่นเอกสาร copyright ของ Superman แต่ได้บอกว่า Captain Marvel นั่นตั้งใจลอก Superman (ในช่วงนั้นหลายๆเล่มของ Captain Marvel ขายดีกว่า Superman)

ในปีเดียวกัน “Adventure of Captain Marvel” ก็ได้เป็นหนังSuperhero จากคอมิคเรื่องแรกที่ได้ฉายในโรง

1950’s

1951 National ยื่นอุทรณ์ และ ศาลตัดสินว่า Copyright ของ Superman ยังใช้ได้และ เนื้อเรื่องของ Captain Marvel comics อาจจะลอก Superman จริง แต่ตัวละครไม่ได้ลอก จึงส่งคดีกลับไปให้ตัดสินใหม่ โดยใช้หลักฐานจากในเรื่อง

1952 ช่วงนี้หมดยุคทองของคอมิคแล้ว ทาง Fawcett เห็นว่าคดีที่ยาวมากจะไม่คุ้มเมื่อเทียบกับยอดขาย จึงยอมจ่ายเงินยอมคดีนอกศาลกับ National ประมาณ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ และหยุดตีพิมพ์หนังสือของตัวละคร Marvel Family ทั้งหมด

1960’s

คอมิคเริ่มเปลี่ยนแนวทางการเล่าเรื่องให้เป็น Sci-fi มากขึ้น โดยหลายๆคนนับว่าเริ่มจาก “The Flashes of Two worlds” ใน The Flash #123 ที่นำ Flashคนใหม่ (Barry Allen) ข้ามไปเจอกับ Golden Age Flash (Jay Garrick)

1961 Timely ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Atlas เริ่มใช้หัว Marvel Comics บนหน้าปก และปลายปี Fantastic Four #1 ก็วางจำหน่ายและเริ่ม Marvel age of comics ที่เริ่มแนะนำตัวละครที่เรารู้จักอย่าง Spider-man, IronMan, Thor

1966 MF Enterprises ตีพิมพ์ Captain Marvel comics โดยใช้ตัวละครใหม่ที่มีพลังแยกร่างได้ โดยออกมาแค่6เล่ม ระหว่าง 1966-1967

1967 Marvel เปิดตัว Captain Marvel คนใหม่ ใน Marvel Superheroes #12 (Mar-Vell ทหารชาว Kree ผู้มาอยู่บนโลกเพื่อสืบข้อมูลแต่ตัดสินใจเข้าข้างมนุษย์แทน) Marvel ได้ตกลงกับ MF Enterprise เรื่องการใช้ชื่อก่อนที่จะต้องขึ้นศาล (ซึ่งตอนนั้น MF น่าจะแพ้ เพราะ Marvel ได้ลงทะเบียนคำว่า Marvel Comics ไว้แล้ว)

1968 Carol Danvers เปิดตัวเป็นตัวละครสมทบใน Marvel Superheroes #13

1970

1972 DC Comics ทำสัญญาเช่าตัวละคร original Captain Marvel จาก Fawcett Comics โดยใช้ชื่อหัวคอมิคว่า Shazam! แต่ยังใช้ชื่อตัวละครเดิมภายในเล่มอยู่

1977 Carol Danver ที่ได้พลังจากการระเบิด (ในหัวของ Marvel SUperheroes)
กลับมามีบทบาทพร้อมมีพลังของตัวเองใน MS marvel (ตั้งชื่อว่า MS เพื่อสะท้อนกระแส feminist ในขณะนั้น)

1980’s -90’s

1982 Death of Captain Marvel เป็นหหนังสือ Graphic Novel เล่มแรกของMarvel comics ที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ และมีขนาดใหญ่กว่าคอมิคทั่วไป โดยในเรื่อง Mar Vell ป่วยเป็นมะเร็งและไม่สามารถรักษาได้แม้จะได้ความช่วยเหลือจากทั้งมิตรและศัตรูทั่วจักรวาล

1982 Monica Rambeau เปิดตัวใน The Amazing Spider-Man Annual #16 (October 1982) ก่อนจะเข้าทีม Avengers ในปีต่อมา จนได้เป็นผู้นำทีมAvengersในเล่ม #279 (May 1987) และเปิดหัวคอมิคของตัวเองในปี 1989

1987 หลังจากที่ DC ได้จัดการรีบู้ทจักรวาลครั้งใหญ่ใน Crisis on Infinite Earths ในปี 1985-86 ในปี 1987 Legends ก็เป็นอีก Crossover event ที่นำตัวละครอย่าง Wonder Woman และ Captain Marvel ของ Fawcett กลับมาเปิดตัวพร้อมประวัติใหม่

ปี 1991 DC ได้ซื้อสิทธิ์ของตัวละครจาก Fawcett อย่างถาวร และเริ่มซีรี่ส์ใหม่ The Power of Shazam! และรีบู้ทตัวละครอีกครั้งในปี 1995

2010’s

ปี 2011- Carol Danvers เริ่มใช้ชื่อ Captain Marvel โดยเปิดตัวใน Avenging Spider-Man Vol 1 9 ก่อนจะเริ่มหัวของตัวเองใน Captain Marvel (2012) 08/2012

2011-2012 DC รีบู้ทจักรวาลครั้งใหญ่อีกครั้งและเปิดจักรวาลใหม่ใน new52 และได้แนะนำตัวละคร Shazam อีกครั้ง โดยเลิกใช้ชื่อ Captain Marvel และใช้ชื่อว่า Shazam อย่างเป็นทางการทั้งหัวและตัวละคร (ส่วนนึงมาจากการที่ไม่สามารถใช้คำว่า Captain Marvel ประกอบสินค้าได้)

 

สรุปคือตอนนี้ ก็มีแต่ Carol ที่ใช้ชื่อ Captain Marvel แล้ว และถ้าช่วง SHAZAM! เข้าโรงก็อย่าเผลอไปบอกว่า ขอซื้อตั๋วดู Captain Marvel ละกันเดี๋ยวได้ดูผิดเรื่อง

 

*ภาพประกอบปกโดย https://www.deviantart.com/niteowl94/art/Captain-Captain-762748257